แน่นอนว่าการระบายอากาศภายในห้องด้วยการเปิดหน้าต่างอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ หากห้องปิด ไม่ระบายอากาศ เสี่ยงต่อการสะสมของไวรัสหรือแบคทีเรีย รวมถึงมลพิษในอากาศ

การเปิดหน้าต่างอย่างเดียวไม่เพียงพอ อีก 1 สิ่งสำคัญคือ “ทางเข้า” และ “ทางออก” ของลม

คงเป็นเรื่องยาก หากบ้านของคุณมีหน้าต่างหลายบาน หากคุณต้องเปิดหน้าต่างทุกบานคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคุณ เพียงคุณเปิดหน้าต่าง 2 บาน 2 ทิศทาง และทิศทางบานหน้าต่างทั้ง 2 บาน ควรอยู่ในแนวทแยงมุม จะช่วยให้อากาศไหลเวียนภายในห้องง่ายขึ้น สามารถเปลี่ยนอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. เปิดบานหน้าต่าง 2 บาน 2 ทิศทาง ในแนวตรง ทำให้อากาศหมุนเวียนในห้องเพียงบางจุด

2. เปิดหน้าต่าง 2 บาน 2 ทิศทาง ในแนวทแยงมุม ทำให้อาการหมุนเวียนทั่วทั้งห้อง

3. กรณีไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้ สามารถเปิดประตูร่วมกับการใช้พัดลมเป็นถ่ายเทอากาศ

การเปิดหน้าต่างในสองทิศทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

เราจะพาคุณไปดูแบบจำลอง ความแตกต่างของการไหลเวียนของอากาศระหว่าง "เปิดหน้าต่างบานเดียว" และ "เปิดหน้าต่างสองบาน" ซึ่งต่างกันอย่างชัดเจน ถึง 10 เท่า โดยวัดค่าประสิทธิภาพการระบายอากาศดังนี้

• 1. เปิดหน้าต่าง 1 บาน เกิดการไหลเวียนของอากาศจำนวน 1.7 ครั้ง/ชั่วโมง
• 2. เปิดหน้าต่าง 2 บาท เกิดการไหลเวียนของอากาศจำนวน 16.6 ครั้ง/ชั่วโมง

ในกรณีที่เปิดหน้าต่างบานเดียวอากาศจะหยุดนิ่งที่ด้านหลังของห้องครัว และจะใช้เวลาประมาณ 35 นาทีเพื่อให้อากาศเปลี่ยนแปลง และในทางกลับกันหากคุณเปิดหน้าต่างสองบาน อากาศจะถูกแทนที่ไปทางด้านหลังของห้องครัวใช้เวลาไม่ถึง 4 นาที

และอีก 1 ปัจจัยสำหรับการระบายอากาศ ควรเปิดหน้าต่างด้านหน้าตามทิศทางของลม อย่างไรก็ตามหากอาคารที่อยู่ติดกัน ลมอาจพัดเข้ามาได้ไม่ดี หรือตำแหน่งอาคารด้านหน้าไม่ได้อยู่ในทิศทางลม ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าต่างให้เหมาะสมกับทิศทางลม

* จากแบบจำลองนี้ ขึ้นอยู่กับ รูปแบบอาคาร สภาพลม และ วิธีการระบายอากาศ เมื่ออาคารได้รับลมการไหลเวียนของกระแสลมรอบผนังด้านนอกจะเปลี่ยนไปดังนั้นเส้นทางการไหลของลมภายในอาคารอาจแตกต่างจากทิศทางที่ลมพัดจริง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

www.ykkap.co.jp